แบกข้าวร้อยลี้
สมัยราชวงศ์โจว จื่อลู่เป็นศิษย์คนหนึ่งในสํานักขงจื๊อ ครอบครัวของเขา
ยากจนมาก ต้องไปเก็บผักป่ามากินประทังชีวิต เพื่อเลี้ยงดูผู้บังเกิดเกล้า เขา
ต้องไปรับจ้างทํางานไกลบ้าน ครั้นได้เงินมาก็จะซื้อข้าวสาร แล้วแบกกลับ
บ้านเป็นระยะทางไกลนับร้อยลี้เป็นประจํา
เมื่อบิดามารดาเสียชีวิตแล้ว จื่อลู่เดินทางลงใต้ไปรับราชการที่แคว้นฉู่จน
ได้เป็นขุนนางผู้ใหญ่ แม้ว่าบัดนี้ชีวิตความเป็นอยู่ของเขาจะสมบูรณ์พูนสุข
แต่จิตใจเขาก็ยังคงรําลึกถึงพ่อแม่อยู่เสมอ เขามักจะรําพึงรําพันว่า “แม้ว่า
บัดนี้เราจะมั่งมีศรีสุข แต่เมื่อพ่อแม่ไม่อยู่แล้ว การอยู่ดีกินดีจะมีความหมาย
อะไร ยังคิดอยากจะเหมือนเช่นแต่ก่อนที่กินผักป่าและแบกข้าวไกลร้อยลี้เพื่อ
เลี้ยงดูพ่อแม่เสียดายที่วันเวลาเหล่านี้ไม่สามารถหวนกลับมาอีกแล้ว”
百里负米
仲由,字子路、季路,春秋时期鲁国人,孔子的得意,性格直率勇敢,十分孝
顺。早年家中贫穷,自己常常采野菜做饭食,却从百里之外负米回家侍奉双
亲。父母死后,他做了大官,奉命到楚国去,随从的车马有百乘之众,所积的
粮食有万钟之多。坐在垒䬓的锦褥上,吃着丰盛的伪席,他常常怀念双亲,慨
叹说:“即使我想吃野菜,为父母亲去负米,䬟里能䭧再得䏆?”孔子赞扬
说:“你侍奉父母,可以说是生时尽力,死后思念䬟!”(《孔子家语·致思》)